บทความ

หลักการของเครื่อง CBC
หลักการของเครื่อง CBC เป็นอย่างไร



ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเครื่องของ HORIBA ABX 60 นะครับ
หลักการเครื่องตรวจนับเม็ดเลือด PENTRA 60
 
เครื่องจะมีระบบดูดเลือด (Whole Blood )   โดยอัตโนมัติ  แล้วนำไปผสมกับน้ำยาชนิดต่างๆ ในแต่ละ  chamber  จากนั้นจึงนำไปผ่านขั้นตอนการนับ โดยมีหลักการต่างๆ ดังนี้
 
1. Impedance  เป็นหลักการที่ใช้ตรวจนับRBC และPLT      
 
เมื่อเลือดถูกดูดเข้ามาที่ RBC chamber และผสมกับน้ำยา   ABX Diluent แล้ว RBC และ PLT จะถูกส่งผ่าน aperture ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูเท่ากับ 50 mm. ถัดจาก aperture จะมี electrode 2 ขั้ว ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าคงที่ไหลผ่าน และเมื่อ cell ที่มีขนาดต่างๆกันผ่านจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางแรงดัน pluse amplitude ขึ้น  โดยจะมีขนาดแปรผันตามขนาดของ cell  ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกต่างของระดับกลุ่ม pluseของ RBC  และกลุ่ม pluse ของ PLT เนื่องจากขนาดที่ต่างกัน ขณะที่จำนวน pluse จะแปรผันตามจำนวนของ cell  ดังแสดงตามรูป
 
 รูป แสดงการตรวจหาปริมาณ RBC  และ PLT
  
2. การตรวจหาค่า Hemoglobin
               
                Photometer   เป็นหลักการหาความเข้มข้นของ HGB  โดยเลือดจะถูกปล่อยลงในHGB chamber เมื่อผสมกับน้ำยา ABX Diluent  และน้ำยาABX Alphalyse ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ RBC สลาย  ทำให้เกิดปฏิกิริยากับ hemoglobin ได้เป็นสารประกอบ  Chromogenous  Cyanmethemoglobinจากนั้นจะถูกวัดโดยหลักการ  Spectro-photometry  โดยใช้แสงที่มีความยาวคลื่น 550 nm.   สำหรับ parameter อื่นๆ ได้จากการคำนวนโดยไมโครโปรเซสเซอร์
 
 
 3. การตรวจหาปริมาณ  BASO/ WBC  
                        
                          เลือดจะผสมกับน้ำยา ABX Diluent ใน BASO/WBC chamber   แล้วจึงทำการวัด WBC โดยใช้หลักการ Impedance เช่นเดียวกับการนับ RBC และ PLT  แต่ใช้ aperture ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูเท่ากับ  80 mm.   หลังจากนั้นจึงมีการเติมน้ำยา ABX BasolyseII เพื่อทำปฏิกิริยาสลาย RBC และ Cell Mambrane ของWBC ทุกชนิด ยกเว้น Basophil ที่ยังสมบูรณ์อยู่   แล้วจึงผ่านขั้นตอนการนับ cell ใน aperture เช่นกัน ดังแสดงตามรูป
 
รูปแสดงการหาปริมาณ Basophil
 
 4. การตรวจหาแยกชนิดของเม็ดขาว NON BASOPHLI
(Lymphocyte, Mononuclear, Neutrophil, Eosinophil )LMNE
 
เครื่องใช้หลักการในการหา เปอร์เซนต์ %  แยกชนิดของเม็ดขาวแต่ละชนิด  3 หลักการ
1. Cytochemistry
                        
                         เลือดจะผสมกับน้ำยา ABX Diluent ใน LMNE Chamber ตามด้วยน้ำยา ABX Eosinofix  เพื่อทำปฏิกิริยาสลาย RBC   Fix WBC  โดยน้ำยา Eosinofix จะติดสีเฉพาะ nucleus ของแต่ละเซลเม็ดเลือดขาว
 
รูปแสดง การติดสี ของเม็ดเลือขาว
 
2. การแยกตามขนาดเม็ดเลือดขาว impedance
                        
                         หลังจากนั้น WBC ทั้งหมดจะผ่านไปยัง cytometer เป็นแบบแถวตอนเรียงหนึ่งเพื่อทำการแยกชนิดของ WBC   โดยใช้หลักการimpedance   สำหรับหลักการ impedance จะใช้แยกขนาดของ LMNEตามขนาด ( primary focused flow for impedance measument )
 
รูป แสดงการแยกเม็ดเลือดขาวผ่าน CYTOMETER แยก ตามขนาด และการติดสี
 
3.การแยกเม็ดเลือดตามการติดสี Light Absorbance   
 
                         เมื่อสามารถแยกขนาดของ LMNEทุกชนิดได้แล้ว LMNE จะถูกวัดค่าการดูดกลืนแสง และการกระจายแสง  ซึ่ง cell แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับโครงสร้างภายในและคุณสมบัติการถูกย้อมสีทำให้สามารถแยก LMNE ได้
 
โดยการแยกเม็ดเลือดขาวโดยการติดสี Light Absorbance    ตามแนวแกน Y

โดยการแยกเม็ดเลือดขาวโดยขนาด  impedance ตามแนวแกน X  

 
รูปแสดง matrix  ของการแยกเม็ดขาว LMNE